วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

อนุทินที่ 3



ผู้ปกครองโวย! ครูโหดใช้ไม้บรรทัดเลื่อยหูเด็กอนุบาล เย็บ 5 เข็ม





     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้ (22 ก.ค 57) ที่หอประชุมโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลแม่ยวม    อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน กลุ่มผู้ปกครองเด็ก จำนวนกว่า 60 คน เข้ารับฟังคำชี้แจงของนายพุทธิวัฒน์ ใจสูง นายกเทศมนตรีตำบลแม่ยวม และนางแพรนภา ธรรมเนียมต้น ผอ.โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลแม่ยวม กรณีที่นางจันทนา วรสกุล ครูในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลแม่ยวม ตำแหน่งครูผู้ช่วย ครูประจำชั้นห้องอนุบาล 2 ที่ลงโทษ เด็กชายจี (นามสมมุติ) อายุ 4 ปี นักเรียนชั้นอนุบาล 2 โดยการใช้ไม้บรรทัดเหล็กเลื่อยใบหูซ้ายจนเลือดอาบ เย็บ 5 เข็ม เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 57 และถูกนำเผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก อย่างกว้างขวาง โดยที่ทางพ่อ แม่ ไม่ติดใจเอาความ แต่ผู้ปกครองส่วนหนึ่งกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรียกร้องให้มีการสอบสวน เอาความผิดทั้งทางวินัยและอาญา และไม่ให้เข้ามาสอนในโรงเรียนอีกต่อไป

     นางแพรวนภา ธรรมเนียมต้น ผอ.โรงเรียน กล่าวว่านางจันทนา วรสกุล ครูคนดังกล่าว ยังอยู่ระหว่างการทดลองงาน พึ่งจะสอบบรรจุเข้ามาได้ประมาณ 2 ปี ยังไม่ผ่านการประเมิน และที่ผ่านมาถูกผู้ปกครองนักเรียนร้องเรียนมาแล้วหลายครั้งว่ามีพฤติกรรมที่ ลงโทษนักเรียนค่อนข้างจะรุนแรง ทางโรงเรียนเองก็ได้กล่าวตักเตือนมาแล้ว 2 ครั้ง พร้อมกำหนดโทษไว้แล้ว เจ้าตัวรับว่าจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่ครูรายนี้ ลงโทษเด็กด้วยวิธีรุนแรงเกินกว่าเหตุและปฎิเสธการกระทำดังกล่าว ดังนั้นเพื่อหาข้อเท็จจริงและความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ทางโรงเรียนร่วมกับคณะกรรมการสถานศึกษาจะดำเนินการสอบหาข้อเท็จจริงอย่าง เร่งด่วนต่อไป
ด้าน นายพุทธิวัฒน์ ใจสูง นายกเทศมนตรีตำบลแม่ยวม กล่าวว่า ขณะนี้ได้ออกคำสั่งให้ครูรายนี้ ไปช่วยงานด้านพัสดุ ที่สำนักงานเทศบาลตำบลแม่ยวมแล้ว พร้อมได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ร่วมกับทางศูนย์ประชาบดี สอบหาข้อเท็จจริงเพื่อความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ในเบื้องต้นนี้ นางจันทนา ให้การปฏิเสธ อ้างว่าในช่วงเกิดเหตุตนไปเข้าห้องน้ำ พอกลับออกมาพบว่า เด็กชายจี มีบาดแผลที่ใบหูและเลือดอาบ ขณะที่เด็กนักเรียนที่อยู่ในชั้นเรียนเดียวกันพูดตรงกันว่าครูประจำชั้นเป็น คนทำร้าย เด็กชายจี จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
จากการสอบถามครูในโรงเรียนเดียวกันถึงกรณีนางจันทนา ทำโทษเด็กชายจี ว่ามาจากสาเหตุอะไร ครูในโรงเรียน เล่าว่า วันนั้นช่างได้มาทำการปรับสนามฟุตซอล โดยใช้เครื่องจักรมาปรับพื้นที่ด้วยความห่วงว่าจะเกิดอันตรายแก่นักเรียนจึงสั่งให้เข้าห้องเรียนโดยมีนักเรียนชั้นอนุบาลทั้งหมด 28 คนกลับเข้าห้องกันหมดแล้ว เหลือแต่เด็กชายจี ไม่ยอมเข้าห้อง จึงถูกลงโทษด้วยการนำไม้บรรทัดมาเฉือนใบหูจนเลือดไหล แล้วปล่อยให้เด็กชายจี ยืนร้องไห้เสียงดังจนเพื่อนครูมาเห็นตกใจเข้ามาดูบาดแผล เมื่อเห็นว่าแผลลึกและฉกรรจ์จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านน้ำดิบ แต่แผลลึกจึงนำส่งเด็กชายจีส่งโรงพยาบาลแม่สะเรียง
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากผู้ปกครองเดินทางเข้าพบ นายกเทศมนตรีตำบลแม่ยวม และเจรจาเสร็จแล้วทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านน้องนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ พบสภาพความเป็นอยู่แล้ว ทำให้สลดหดหู่กับความเป็นอยู่ที่น่าสงสาร สภาพบ้านเป็นกระต๊อบหลังเล็กๆ ในส่วนลำไย บิดาเด็กชายจี ไม่มีอาชีพอะไรวันๆทำไร่ปลูกพืชผักสวนครัวออกขาย รายได้ไม่แน่นอน
จากการสอบถาม พ่อของน้องจี ถึงหลังจากครูทำโทษน้องจี ได้รับการช่วยเหลืออะไรมาบ้าง คุณพ่อตอบว่า ครูที่ทำโทษน้องจี ให้เงินมาหนึ่งร้อยบาท และทางโรงเรียนให้ค่าเดินทางไปดูแล 1,500 บาท ทางศูนย์ประชาบดีให้มา 2,000 บาท เพื่อเป็นค่าเลี้ยงดูเด็กชายจี ที่ขณะนอนพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลแม่สะเรียง

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอ่านข่าว
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากข่าวนี้ข้าพเจ้าคิดว่าหากมีการตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงนั้นก็เป็นการลงโทษเด็กเล็กที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ คนเป็นครูควรจะสอนเขาให้เป็นคนดี ควรตรึกตรองกันให้มากขอตั้งสติให้ได้อย่าให้อารมณ์โกรธเข้าครอบงำ เพราะเมื่อนั้นเราจะขาดสติทำอะไรไม่ได้ก็เดินหนีไปสงบสติอารมณ์ตั้งหลักก่อนแล้วกลับมาใช้เหตุผลในการคุยเพราะเด็กยังเป็นเด็กเล็ก ถึงแม้ผู้ปกครองเด็กจะไม่เอาความแต่ก็เป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรเอาอย่างแต่หากเป็นเรื่องจริงที่พฤติกรรมของครูคนนี้ทำเป็นครั้งที่3 แล้วก็ควรรีบเร่งตรวจสอบพิจารณาเอาโทษผิดเพื่อเป็นแบบอย่างให้คนรุ่นต่อไปหรือเพื่อนร่วมวิชาชีพได้เห็นเป็นเรียนว่าการลงโทษเกินกว่าเหตุนั้นมีความผิดไม่ควรเอาเป็นแบบอย่าง



ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/594625

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น